ไลน์ดูบอลสด
24ชม. @livescore24-th
โปรเจกต์ รีสตาร์ท ได้ไปต่อหรือไม่ ? 5 ประเด็นสำคัญประชุมพรีเมียร์ลีกต้องพิจารณา
บอร์ดบริหารพรีเมียร์ลีก เตรียมที่จะมีการพูดคุย 5 ประเด็นสำคัญสำหรับการประชุมที่จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคมนี้ เพื่อที่จะทำตกลงใจเกี่ยวกับ “โปรเจกต์ รีสตาร์ท” ว่าจะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่
ช่วงที่ผ่านมามีรายงานว่า ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีฤดูกาล 2019/2020 จะกลับมาแข่งกันต่อ ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ หลังจากที่เกมลีกจำเป็นต้องหยุดพักชั่วคราวเนื่องจากโดนวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ตามมีบางสโมสรที่ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอบางเรื่องเนื่องจากกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย และสวัสดิภาพของนักเตะในช่วงที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมรณะยังไม่จบสิ้น ซึ่งอาจจะส่งผลเสียมากยิ่งขึ้น
สำหรับล่าสุดบรรดาผู้บริหารในพรีเมียร์ลีก พากเพียรที่จะหาแนวทางในการแก้ปัญหาต่างๆเพื่อหวังจะให้เกมลีกกลับมาแข่งกันใหม่อีกครั้ง โดย 5 ประเด็นสำคัญนี้ถือเป็นวาระที่ต้องมีการพิจารณาในการประชุมวันจันทร์นี้
สนามกลาง
หนึ่งในประเด็นสำคัญสำหรับหลายสโมสรที่มีการถกเถียงกันเกี่ยวกับการใช้สนามกลางเพื่อลงแข่งตามโปรแกรมที่เหลืออยู่ในฤดูกาล 2019/2020
แผนของ พรีเมียร์ลีก ต้องการให้เกมที่เหลืออยู่ทั้งหมดแข่งในสนามกลาง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้แฟนบอลเดินทางมาอยู่นอกสนามแข่ง ถ้าหากว่าสโมสรที่พวกเขาเชียร์กลับมาลงแข่งในสนามเหย้าของตัวเอง
ก่อนหน้านี้ พอล บาร์เบอร์ ประธานบริหารสโมสร ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน เป็นหนึ่งในเสียงที่ไม่เห็นด้วยกับไอเดียนี้ โดยให้เหตุผลว่าการใช้สนามกลางจะเป็นการเพิ่มความได้เปรียบให้กับทีมใหญ่ และทำให้ทีมเล็กที่หนีตกชั้นจะต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบค่อนข้างเยอะกว่าเมื่อเทียบกันแล้ว
ฉะนั้นเรื่องนี้จำเป็นอย่างยิ่งเพื่อหาข้อสรุป และทำให้ทั้ง 20 ทีม โดยเฉพาะกลุ่มท้ายตารางรู้สึกว่าพวกเขาไม่เสียเปรียบอย่างที่คาดคิดเอาไว้
โปรแกรมการแข่งขัน
นี่เป็นอีกเรื่องที่จะต้องมีการพิจารณากันอย่างละเอียด โดยบอร์ดบริหารพรีเมียร์ลีกจำเป็นต้องมีการพูดคุยเกี่ยวกับตารางการแข่งขันเพื่อให้เกิดความชัดเจนกับทุกๆสโมสร โดยเล็งจะแข่งขันให้จบเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งอาจจะก่อนเดือนสิงหาคมนี้
แน่นอนว่าทุกสโมสรต้องการรู้รายละเอียดในเรื่องโปรแกรมการแข่งขันว่าจะต้องเล่นยังไง และจะต้องลงสนามกันแบบไหน โดยแผนปัจจุบันก็คือจะมีการจัดสรรตารางการแข่งขันในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน เพื่อที่จะได้เหมาะกับการถ่ายทอดสด
อย่างไรก็ตาม ในการแข่งขันวันสุดท้ายของซีซั่น ทุกๆทีมจะลงแข่งขันในเวลาเดียวกันเหมือนที่เคยทำมา สำหรับโปรแกมนัดชิงชนะเลิศ ศึกเอฟเอ คัพ จะมีการแข่งกันในสัปดาห์ต่อไป
ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ว่าโปรแกรมการแข่งขันจะใช้เวลาแข่งให้จบซีซั่นให้สั้น และเร็วที่สุด เพื่ออำนวยความสะดวกให้สโมสรที่ยังต้องเล่นในเกมฟุตบอลถ้วยยุโรปจะได้มีเวลาเตรียมสภาพร่างกายก่อนที่ลงสนามทั้งในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ยูโรปา ลีก
การถ่ายทอดสด
สกายสปอร์ตส์ และ บีที สปอร์ต 2 สื่อกีฬาชั้นนำ ยังคงถือครองสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดเกมพรีเมียร์ลีกที่เหลืออยู่อีก 47 แมตช์ และหากมีการตัดสินใจให้เกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีกลับมาแข่งกันต่อให้จบในซีซั่นนี้ จะช่วยพวกเขาสร้างรายได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตามมีรายงานจากสื่อว่า เกมพรีเมียร์ลีกบางนัด เตรียมที่จะมีการถ่ายทอดสดให้แฟนบอลทางบ้านได้ชมกันแบบฟรีๆผ่านทางเว็บไซต์ยูทูป ถ้าหากฤดูกาล 2019/2020 กลับมาแข่งกันต่อ โดยเหตุผลเพื่อให้คอลูกหนังยังสามารถรับชมเกมการแข่งขันแบบสดๆได้จากที่บ้าน
ส่วนในกรณีของ อเมซอน บริษัทชื่อดังจะได้สิทธิ์เลือกถ่ายทอดเกมอื่นๆซึ่งจากการที่จะไม่มีเกมไหนที่ถูกถ่ายทอดสดทาง บีบีซี หรือ ไอทีวี ทำให้ตอนนี้มีการคุยกันว่าจะเลือกถ่ายทอดสดเกมเหล่านั้นแบบฟรีๆผ่านทาง ยูทูป และหากเป็นอย่างนั้นจริงๆมันก็จะทำให้นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่นัดเปิดฤดูกาล 2013/14 ที่เกม พรีเมียร์ลีก มีการถ่ายทอดสดแบบฟรีๆ
นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาเรื่องการเพิ่มการถ่ายทอดเบื้องหลังเกมอย่างเช่นตอนที่นักเตะอยู่ภายในอุโมงค์ และห้องแต่งตัว เนื่องจากบอร์ดบริหารพรีเมียร์ลีก ต้องการชดเชยให้กับแฟนบอลที่ต้องพลาดสัมผัสบรรยากาศสดๆเพราะเกมลูกหนังต้องแข่งแบบปิดสนาม
ระเบียบแบบแผนการฝึกซ้อม
หลายๆสโมสรเริ่มเรียกนักเตะของพวกเขากลับมาฝึกซ้อมกันที่สนามแล้ว หลังจากมีแววว่าเกมลูกหนังจะหวนกลับมาแข่งกันต่อให้จบซีซั่น โดยงานนี้ทุกทีมต้องมีการวางแผนเกี่ยวกับเรื่องการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
จากข้อกำหนดในช่วงที่ผ่านมาระบุว่านักเตะทุกคนจะต้องฝึกซ้อมแบบแยกเดี่ยว โดยต้องยึดหลักระยะห่างทางสังคม หรือ “ระยะปลอดภัย” อย่างเคร่งครัด รวมถึงมาตรการในการตรวจการติดเชื้อ อย่างสม่ำเสมอ และวิธีการในการต่อกรหากมีผู้ติดเชื้อในทีมด้วย
อย่างไรก็ตามแต่ละสโมสรยังคงต้องรอฟังความชัดเจนว่าเมื่อไหร่ที่นักเตะของพวกเขาจะสามารถกลับมาลงฝึกซ้อมในสนามซ้อมร่วมกันได้ สำหรับเรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่จะประกาศแผนเรื่องการขยายหรือปลดล็อกดาวน์ในเมืองผู้ดี
การเงิน
สถานการณ์ด้านการเงินอาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแข่งขันในสนามโดยตรง แต่ก็มีความสำคัญอย่างมาก เพราะนับตั้งแต่ที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เกมลูกหนังต้องหยุดชะงัก ส่งผลต่อการที่สโมสรต่างๆขาดรายได้มหาศาล
ต้องไม่ลืมว่าทุกสโมสรจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อพัฒนาทีม และพวกเขาต้องเจอผลกระทบในเรื่องนี้อย่างหนัก โดยพรีเมียร์ลีกได้ทำการประเมินตัวเลขที่พวกเขาต้องสูญไปมีมากกว่า 1 พันล้านปอนด์ (ราว 38,000 ล้านบาท) เลยทีเดียว หากซีซั่นนี้แข่งไม่จบ
สำหรับการประชุมในครั้งนี้พรีเมียร์ลีก ต้องมีการแจกแจงรายละเอียดด้านการเงินทั้งหมดสำหรับการกลับมาแข่งขันกันต่อ ซึ่งรวมทั้งรายจ่ายที่จะต้องใช้ในกรณีที่จะเลือกวิธีการใช้สนามกลางสำหรับเกมที่เหลืออยู่ในซีซั่นนี้ และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เป็นต้น
ขณะเดียวกัน พรีเมียร์ลีก ต้องอธิบายเรื่องรายได้ที่ทีมที่เป็นเจ้าบ้านจะได้รับ และค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายให้กับสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ในกรณีที่ใช้สนามเวมบลีย์ด้วย
สำหรับบทสรุปในการประชุมจะเป็นอย่างไร แล้ว โปรเจกต์ รีสตาร์ท จะเดินไปต่อได้หรือไม่ บอร์ดบริหารพรีเมียร์ลีก ต้องเคลียร์ 5 ประเด็นนี้ให้ได้