น้ามูสู้โซลชาภาคสอง! 5 ประเด็นเด็ดก่อนสเปอร์สฟัดแมนยู

บทความ
เตรียมมันส์กับบิ๊กแมตช์
เตรียมมันส์กับบิ๊กแมตช์

ศึกพรีเมียร์ลีกนัดรีสตาร์ทคืนนี้เตรียมมันส์กับบิ๊กแมตช์ที่สนามท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม เมื่อ “ไก่เดือยทอง” มีโปรแกรมต้อนรับการมาเยือนของคู่แข่งลุ้นท็อปโฟร์อย่าง “ปีศาจแดง” ซึ่งถือเป็นภาคที่สองของการปะทะกันระหว่าง โชเซ่ มูรินโญ่ กับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก่อนเราจะไปพบกับความสนุกในคืนนี้เรามีประเด็นที่น่าสนใจก่อนเกมมาให้อ่านกัน

 

1.บรูโน่-ป็อกบามามั้ย?

 

 

บรรดาสื่อและสาวก “ปีศาจแดง” ต่างตื่นเต้นที่จะได้เห็นการประสานงานของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส และปอล ป็อกบา ทั้งสองคนยังไม่ได้เล่นร่วมกันในแมตช์ทางการเลยแต่ลงเล่นแค่เกมอุ่นเครื่องกับ เวสต์บรอม เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเท่านั้น ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ตำนานปีศาจแดงก็ออกโรงมาชี้แนวทางให้ โซลชา ส่งทั้งคู่ลงพร้อมกันเพียงแต่ต้องให้กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส ยืนอยู่สูงกว่า และได้เล่นอย่างมีอิสระกับบทบาทหมายเลข 10 โดยไม่ต้องสนใจกับการลงไปเล่นเกมรับ

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ “ปีศาจแดง” กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีแม้ทีมจะไร้ ป็อกบา ก็ตาม พวกเขาใช้คู่กลางอย่าง เฟร็ด และเนมานย่า มาติช ที่เน้นเกมรับเป็นหลักและกำลังทำผลงานยอดเยี่ยมด้วย น่าสนใจว่าเกมใหญ่แบบนี้ โซลชา จะเสี่ยงทดลองใช้ บรูโน่ และป็อกบา ครั้งแรกไหมหรือจะเลือกใช้กองกลางคู่เดิม

 

2.สองกำลังหลักมาแล้ว

 

 

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ สเปอร์ส ฟอร์มตกอย่างหนักในช่วงก่อนเบรกการแข่งขันคือนักเตะสำคัญบาดเจ็บ นอกจากพวกเขาจะเสีย แฮร์รี่ เคน ไปในเดือนมกราคมแล้ว หนำซ้ำ ซน ฮึน-มิน ซึ่งกำลังฟอร์มฮอตยิง 5 ประตูติดต่อกันในทุกรายการก็ดันมาได้รับบาดเจ็บที่แขนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์

ตอนแรกหลายคนก็คาดว่าทั้งคู่จะอดลงสนามในฤดูกาลนี้แล้ว ทว่าเมื่อลีกหยุดการแข่งขันก็ทำให้ทั้งสองมีเวลาพักฟื้นร่างกายและฟิตซ้อมอย่างเต็มที่ มูรินโญ่ ยืนยันก่อนเกมแล้วว่า ซน และเคน พร้อมใช้งานในคืนนี้แต่ในรายของกองหน้าทีมชาติอังกฤษนั้นอาจจะไม่ได้ลงเล่นเต็มแมตช์

หลังจากหายเจ็บกลับมาแล้ว แฮร์รี่ เคน ก็เจอกับแมตช์ที่ท้าทายตั้งแต่เกมแรกเนื่องจากเจ้าตัวเพิ่งจะยิง 2 ประตูจาก 11 นัดที่ลงเล่นเจอกับ “ปีศาจแดง” คิดเป็นค่าเฉลี่ย 457 นาทีต่อ 1 ประตูซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่แย่ที่สุดของเขาเมื่อพบกับคู่แข่งในพรีเมียร์ลีก มารอดูกันว่าเขาจะเจาะตาข่าย แมนฯยูไนเต็ด ได้หรือไม่

 

3.ไก่ระวังแรช!

 

 

นอกจาก แมนฯยูไนเต็ด จะได้ ปอล ป็อกบา กลับมาฟิตเต็มถังแล้ว พวกเขาก็ยังมี มาร์คัส แรชฟอร์ด พร้อมใช้งานอีกด้วยหลังจากไม่ได้ลงสนามช่วยต้นสังกัดนับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมาเนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บรบกวน แน่นอนว่า สเปอร์ส คงต้องระวังนักเตะคนนี้ให้ดีเพราะเขามักเป็นตัวแสบในช่วงหลังที่เจอกัน

ฤดูกาลที่แล้ว มาร์คัส แรชฟอร์ด โชว์ความคมด้วยการยิงประตูชัยให้ “ปีศาจแดง” ในการเยือนสนาม เวมบลีย์ สตเดี้ยม ขณะที่ฤดูกาลนี้ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด กองหน้าวัย 22 ปีก็เป็นคนยิงประตูขึ้นนำแถมยังมาเรียกจุดโทษและซัดประตูที่สองให้กับตัวเองอีกด้วย “ไก่เดือยทอง” คงต้องวางแผนหยุดแนวรุกคนนี้ให้ได้ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะเป็นคนทำให้สเปอร์สน้ำตาตกอีกครั้ง

 

4.ฟอร์มต่างราวฟ้าเหว

 

 

สเปอร์ส ของ โชเซ่ มูรินโญ่ อาจจะถือว่าโชคดีก็ว่าได้ที่ลีกมีการหยุดการแข่งขันเพราะนอกจากจะเจอปัญหานักเตะบาดเจ็บแล้ว ฟอร์มของทีมก็ย่ำแย่อย่างหนักโดยพวกเขาไม่ชนะใครเลยใน 6 เกมหลังสุดทุกรายการ (เสมอ 2 แพ้ 4) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในอาชีพกุนซือของเขา สำหรับเกมล่าสุดพวกเขาปราชัยต่อไลป์ซิกแบบหมดสภาพ 3-0 ถือเป็นช่วงที่หนักหนาสาหัสของน้ามูเหลือเกินแต่การรีสตาร์ทลีกวันนี้อาจทำให้เขาพลิกชะตาตัวเองก็เป็นได้

ส่วน “ผีแดง” นั้นอาจจะต้องเสียดายเหมือนกันที่ฟอร์มของทีมกำลังดีแต่ต้องมาสะดุดเพราะลีกหยุดการแข่งขัน โซลชา พาทีมไม่แพ้ใคร 11 นัดหลังสุดในทุกรายการ ชนะถึง 8 นัดและยิงประตุมากมายถึง 29 ลูกพร้อมเก็บคลีนชีทอีก 9 นัด ซึ่งต้องขอบคุณการมาของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่ช่วยยกระดับทีมให้ดีขึ้นมาทันตาเห็น มารอดูว่า โซลชา จะสานต่อฟอร์มร้อนแรงแบบนี้ได้หรือไม่

 

5.เกมสำคัญลุ้นท็อปโฟร์

 

 

เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และอาร์เซน่อล สองทีมที่มีลุ้นตั๋วโควต้า ชปล. ต่างพลาดท่าในเกมตกค้างเมื่อวันพุธที่ผ่านมาซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับทั้ง สเปอร์ส และแมนฯ ยูไนเต็ด แน่นอนว่าเกมคืนนี้สามแต้มถือว่าสำคัญมากเพราะหาก “ไก่เดือยทอง” คว้าชัยชนะจะลดช่องว่างจากท็อปโฟร์เหลือแค่ 4 แต้มเท่านั้นเพื่อกดดัน เชลซี ที่จะลงเล่นกับ แอสตัน วิลล่า ในวันอาทิตย์นี้

 

แต่ถ้าหาก “ปีศาจแดง” เก็บสามแต้มได้สำเร็จนอกจากพวกเขาจะแซงเชลซียึดท็อปโฟร์ด้วยลูกได้-เสียที่ดีกว่าแล้ว ยังทำแต้มห่าง สเปอร์ส ถึง 7 แต้มและทีมของน้ามูมีสิทธิ์ถูกเชลซีทิ้งห่างเป็น 10 แต้มเลยทีเดียวในสุดสัปดาห์นี้ซึ่งแม้ในทางทฤษฎีจะยังมีโอกาสแต่ในทางปฏิบัติแล้วก็ถือว่าตัดสเปอร์สออกจากทีมลุ้นท็อปโฟร์ได้เลย